5 สัญญาณร้ายสำหรับเศรษฐกิจปี 2015
สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้เป็นความเห็นและจากการสังเกตุส่วนตัวเท่านั้นนะครับ ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไงก็ตามสะดวกนะครับ
ผมรู้สึกว่า ในปี 2015 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นปีที่ยากลำบากมากๆสำหรับเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกด้วย ผมสรุปแบบนี้เพราะว่าผมเห็นสัญญาณร้าย 5 ประการที่เกิดขึ้นและเชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับเรานักธุรกิจน้อยใหญ่แน่นอน
1. กำลังซื้อหาย เพราะผลกระทบจากโครงการรถคันแรก แน่นอนว่าจำนวนรถคันแรกกว่า 170,000 คันที่ถูกขายออกมาได้ดึงกำลังซื้อออกไปมากพอสมควร คิดง่ายๆว่า ผู้ซื้อรถคันแรกส่วนใหญ่คือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาท/เดือน ในขณะที่ภาระการผ่อนอยู่ที่ 2,000-4,000 บาทต่อเดือน นั่นหมายความว่าเงินที่สามารถเอาไปกิน ดื่ม ช้อป ประมาณ 10-20% ในแต่ละเดือน หายไปกับการผ่อนรถ (ยังไม่นับค่าน้ำมันและค่าซ่อม) รวมถึงปริมาณการหมุนเวียนของเงินเหล่านั้นที่สามารถกระจายไปยังธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้อง ข้อนี้โดนกันหลายเด้งนะครับ
2. ต่อเนื่องจากข้อแรก สัญญาณที่สองนี่ได้มาจากเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่แบงค์ เค้าบอกว่าจากที่แบงก์ตัวเองเคยจัดประมูลรถเดือนสองเดือนครั้ง มาทุกวันนี้ จัดอาทิตย์ละสองครั้ง เรียกว่าประมูลกันแล้วประมูลกันอีก รถหลุดไฟแนนซ์ก็ยังขายไม่ได้ซักที มันบอกได้ชัดเจนว่า สภาพคล่องมันหายไปหมด คนซื้อรถมาก็ผ่อนไม่ไหวให้รถถูกยึด ยึดมาแล้วก็ไม่รู้จะไปขายให้ใคร
3. ค่าเงินสกุลอื่นๆที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับ USD โดยเฉพาะ JPY (Japanese Yen) และ RUB (Russia Ruble) ทำให้คาดการณ์ได้ว่ายอดการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบ้านเราน่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญแน่นอนในปีหน้า นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจากการซื้อขายเงินตราต่างประเทศในเดือนธันวาคมยังคงสะพัด เรียกว่าเคาะราคากันอย่างดุเดือดทุกวี่วันทั้งๆที่เป็นเดือนสุดท้ายของปีซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นเดือนที่การซื้อขายเบาบางมาก บรรดา Broker ไปเที่ยวกันหมดแล้ว แต่การซื้อขายที่ยังหนาแน่นแบบทุกวันที่เป็นอยู่มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก คนในวงการ Curency Exchange จะรู้ดี
4. ราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องในเดือนธันวาคมทั้งๆที่เป็นหน้าหนาว เป็น High Season ของการขนส่ง ราคาน้ำมันที่ลดลงแสดงถึงปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง แสดงว่าความต้องการเชิงพาณิชย์ลดลงนั่นเอง
5. ข่าวการเลือนกำหนดการเปิดให้บริการของศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายโครงการไปอย่างน้อยอีก 6 เดือน (ไปตามข่าวกันเองนะครับ ว่าโครงการไหนบ้าง) เป็นสัญญานว่าธุรกิจ retail เริ่มเข้าสู่ช่วงชะลอการลงทุนและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แสดงว่ามีความไม่น่าไว้วางใจจริงๆกับโอกาสในการขยายธุรกิจในปีหน้า
ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจาก 5 สัญญานร้ายนี้ คือธุรกิจขนาดกลางถึงเล็กที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลางเพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ตลาดของกลุ่มนี้จะ downsize ตัวเองลงโดยอัตโนมัติเนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลง ตลาดของราคาถูกจะขยายตัวขึ้นและโมเมนตัมของการแข่งขันจะกลับไปซัดกันด้วยราคาอีกครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์เท่านั้นครับ จึงจะลอยตัวจากเกมการแข่งขันแบบนี้
สู้กันต่อไปครับ
Credit : Trick of the Trade page
